หากจะยึดสิ่งของต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน อุปกรณ์ที่เรามักนึกถึงเป็นอันดับแรกก็คือ ‘กาว’ ที่สามารถยึดติดวัสดุประเภทต่างๆเข้าไว้ด้วยกันอย่างเหนียวแน่น แต่สำหรับวัสดุบางอย่างอาจไม่สามารถใช้กาวชนิดใดชนิดหนึ่งยึดติดเข้าด้วยกันได้ วันนี้มาดูกันว่ากาวมีประเภทไหนบ้างและเหมาะสำหรับวัสดุแบบใด
กาวลาเท็กซ์ (Latex Glue)
กาวมีทั้งที่เป็นแบบธรรมชาติและแบบสังเคราะห์ โดยจะมีความยืดหยุ่นสูง เนื้อเหนียวข้น และแห้งช้า เหมาะกับงานที่มีน้ำหนักเบาและเกาะติดกันได้ง่าย นิยมใช้สำหรับติดวัสดุกระดาษและไม้ รวมถึงงานประดิษฐ์หรืองานฝีมือต่างๆ
กาวร้อน (Hot Glue)
กาวร้อน หรือกาวไดโก้ 105 /101 เป็นกาวเหลวเนื้อใส เมื่อมีการใช้งานจะแห้งและแข็งตัวอย่างรวดเร็ว จึงควรระมัดระวังขณะใช้งานเพราะล้างออกได้ยาก โดยกาวร้อนจะเกิดความร้อนขณะแข็งตัว สามารถใช้งานได้อเนกประสงค์ ตั้งแต่ใช้ติดวัสดุเซรามิก เนื้อไม้ ตลอดจนซ่อมแซมสิ่งของต่างๆ แต่ไม่เหมาะกับวัสดุเนื้อยางหรือพลาสติกบางชนิด
กาวซุปเปอร์ (Super Glue)
กาวยอดฮิตที่เรามักเรียกกันว่ากาวตราช้าง มีลักษณะคล้ายกาวร้อนแต่จะเป็นเนื้อเจลใสที่มีความหนืดมากกว่าหรือเรียกว่ากาวกึ่งเจล ซึ่งสามารถยึดเกาะได้แน่นกว่ากาวร้อนและแห้งเร็วภายใน 10-30 วินาที เหมาะกับงานที่ต้องการความละเอียดหรือใช้ยึดติดตามช่องขนาดเล็กได้ เช่น ซ่อมรองเท้า เครื่องหนัง เฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น
กาวตะปู (Construction Adhesive)
กาวหลอดแท่งที่ใช้แทนการตอกตะปู ซึ่งเป็นกาวที่มีความแข็งแรง ทนทานและสามารถยึดเกาะพื้นผิวได้ดี มักใช้ในงานที่ไม่สามารถตอกตะปูลงไปได้หรืองานที่ต้องการความเรียบเป็นพิเศษ เช่น กระจกเงา ห้อง หรือคอนโดที่ไม่ต้องการให้สิ่งของเสียหายหรือเป็นรอยตะปู
กาวซีเมนต์ (Cement Glue)
กาวซีเมนต์หรือปูนกาว ที่มีส่วนผสมของกาวและปูนเข้าด้วยกันเพื่อใช้แทนปูนและทราย โดยมีคุณสมบัติยึดเกาะวัตถุได้อย่างดีเยี่ยม จึงมักใช้ในงานก่อสร้าง งานปูพื้นกระเบื้อง ปูลงอิฐ และกำแพงต่างๆ
กาวอีพ็อกซี่ (Epoxy Glue)
เป็นกาวสำหรับใช้อุดรอยรั่วและรอยแตกร้าวต่างๆ มีความทนทานและสามารถแข็งตัวได้อย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับวัสดุจำพวกไม้ โลหะ กระเบื้อง แก้ว และวัสดุอื่น ๆรวมถึงยึดเกาะได้ดีกับวัสดุที่แตกต่างกัน เช่น ใช้ติดเหล็กเข้ากับแก้ว เป็นต้น
กาวยาง (Rubber Glue)
หรือกาวอะลิฟาติก มีลักษณะเป็นกาวสีเหลืองเนื้อข้นเหนียวที่ใช้ระยะเวลาในการแห้งประมาณ 1-2 ชั่วโมง และจะแห้งสนิทเมื่อทิ้งไว้ข้ามคืน เหมาะกับงานเฟอร์นิเจอร์และงานซ่อมต่างๆ
กาวหลอมร้อน (Glue Guns)
กาวร้อนชนิดแท่งแข็ง ที่มีทั้งแบบขุ่นและใส โดยจะใช้คู่กับปืนยิงกาวร้อนไฟฟ้าเพื่อหลอมละลายกาวให้เหลวก่อนยิงลงบนวัสดุที่ต้องการยึดติดและกาวจะแข็งตัวบนวัสดุ จึงมักใช้ในงานฝีมือหรืองานช่างที่ไม่ต้องการความแข็งแรงมากนัก
- กาวแท่งร้อน PKT ขนาด 11*300 มิล เหนียวพิเศษ
- กาวแท่งร้อน PKT ขนาด 7*200 มิล เหนียวพิเศษ
- กาวแท่งร้อน PKT ขนาด 11*300 มิล เหนียวปกติ
- กาวแท่งร้อน PKT ขนาด 7*190 มิล เหนียวปกติ
กาวติดผ้า (Fabric Glue)
กาวที่ใช้กับวัสดุผ้าโดยเฉพาะ ซึ่งมีคุณสมบัติที่แห้งได้อย่างรวดเร็วและทนทาน อีกทั้งยังไม่ทำให้ผ้าเสียหาย รวมถึงไม่ก่อเกิดอันตรายและไม่มีสารพิษที่ส่งผลเสียต่อผิวหนัง
เทปกาวหรือกระดาษกาว
กาวที่มาในรูปแบบเทปม้วนกลมที่ใช้งานได้สะดวกรวดเร็วโดยไม่ต้องรอให้กาวแห้ง ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายพื้นผิว ไม่ว่าจะเป็น เทปกาวกระดาษ เทปกาว 2 หน้า เทปกาวใส เทปกาวผ้า ฯลฯ โดยความสามารถในการยึดเกาะวัสดุต่างๆ จะขึ้นอยู่กับประเภทพื้นผิวของเทปกาวที่สามารถเลือกใช้ได้ตามต้องการ
เทปกาวสำหรับพันสายไฟ
เทปกาวที่มีคุณสมบัติกันไฟฟ้า ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ยึดติดสายไฟและใช้ป้องกันการรั่วไหลของกระแสไฟฟ้า นอกจากนี้เทปพันสายไฟยังทนความร้อนได้สูงมาก ซึ่งเทปกาวประเภทนี้ก็มีหลายชนิดและคุณภาพที่แตกต่างกันไปตามราคา แต่แนะนำว่าให้เลือกใช้เทปกาวที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน มอก. จะดีที่สุด
เมื่อเห็นความแตกต่างของกาวแต่ละประเภทแล้ว อย่าลืมเลือกใช้กาวให้เหมาะกับวัสดุและการใช้งาน เพื่อคุณภาพของชิ้นงานและความทนทานของวัสดุ